ค้นหาบล็อกนี้

อาการล่าสุด น้องมิ้นท์ ก้านสมองไม่ทำงาน จ่อสั่งห้ามจุดพลุตะไลเด็ดขาด

จากกรณีเหตุการณ์พลุตะไลที่จุดในงานเผาศพพุ่งตกลงมาใส่ศีรษะ เด็กหญิงณัฐชา สวัสดี หรือน้องมิ้นท์ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนอาจวิทยาคาร ตำบลตะคุ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด

ขณะน้องมิ๊นท์พร้อมเพื่อนรวม 3 คน เลิกเรียน และกำลังเดินออกโรงเรียนจะกลับบ้าน ทำให้น้องมิ้นท์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งตำรวจ สภ.ปักธงชัยได้แจ้งดำเนินคดีกับชาย 2 คนที่เป็นผู้จุดพลุตะไลในงานศพแล้วในข้อหา กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

อ่าน เปิดภาพนาที บั้งไฟน้อยงานศพ พุ่งตกใส่หัวนักเรียน อาการโคม่า แม่ช็อกรับไม่ได้
ล่าสุด วันนี้ (1 เมษายน 2564) นายแพทย์บวร เกียรติมงคล ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยอาการของน้องมิ้นท์ว่า ยังอยู่ในขั้นโคม่า ก้านสมองไม่ทำงาน เนื่องจากสมองได้รับความกระทบกระเทือนมาก ขณะนี้ร่างกายของน้องมิ๊นท์ อยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งต้องยอมรับว่าอาการบาดเจ็บรุนแรงมาก
ขณะเดียวกัน นายบัลลังก์ ไวท์ศิริ นายอำเภอปักธงชัย พร้อมด้วยพันตำรวจเอก ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการ สภ.ปักธงชัย ได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของน้องมิ้นท์ที่บ้านพักในพื้นที่บ้านตะคุ ตำบลตะคุ อำเภอปักธงชัย เพื่อให้กำลังใจครอบครัว
โดยนายอำเภอปักธงชัย เปิดเผยว่า การจุดพลุในงานประเพณีต่างๆ ต้องมีการขออนุญาตกับทางอำเภอหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ล่วงหน้าก่อน อย่างน้อย 15 วัน โดยผู้ขออนุญาตต้องแจ้งสถานที่ ขนาด และจำนวนของพลุ ให้เจ้าหน้าที่ทราบอย่างชัดเจน แต่กรณีที่เกิดขึ้น ทางเจ้าภาพงานศพไม่ได้ขออนุญาตกับทางอำเภอ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่อย่างใด

ดังนั้น จึงถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ซึ่งมีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผลของการจุดพลุตะไลครั้งนี้ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับชายทั้ง 2 คนที่เป็นคนจุดพลุในงานศพดังกล่าว ในข้อหา จุดพลุโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกหนึ่งข้อหาแล้ว

ด้านนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ และไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะปกติการจุดพลุจะต้องขออนุญาตจากทางส่วนราชการ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ชาวบ้านอาจเห็นว่าเป็นประเพณีงานศพ เป็นวิถีของชาวบ้าน จึงมีการจุดพลุตะไลตามความเชื่อ ซึ่งความเป็นจริงแล้วปัจจุบันความเจริญของบ้านเมืองมีมากขึ้น การจุดพลุดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อบ้านเรือน และประชาชน เหตุการณ์ครั้งนี้จึงเป็นบทเรียนราคาแพง

“ที่ผ่านมาทางจังหวัดได้กำชับมาโดยตลอดในเรื่องของการห้ามจุดพลุ แต่จากเหตุการณ์นี้ไปจะต้องกำชับเข้มงวดมากขึ้น พร้อมทั้งจะไปศึกษาดูข้อกฎหมายในการสั่งห้ามหรือยกเลิกการจุดพลุอย่างเด็ดขาด ซึ่งหากสามารถทำได้ก็จะสั่งห้ามทันที”นายวิเชียร กล่าว

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น