ค้นหาบล็อกนี้

ฎีกาสั่งประหาร "บังฟัต" ฆ่า 8 ศพ คดี “ผู้ใหญ่บัติ” ปี 60 พร้อมสมุน 6 คน

ฎีกาสั่งประหาร "บังฟัต" ฆ่า 8 ศพ คดี “ผู้ใหญ่บัติ” ปี 60 พร้อมสมุน 6 คน

ศาลฎีกาพิพากษาโทษประหาร ชีวิต “บังฟัต” และพวกรวม 7 คน หลังร่วมกันสังหารโหด “ผู้ใหญ่บัติ” และครอบครัวรวม 8 ศพ ส่วนเมียบังฟัตยืนโทษจำคุก 12 เดือน เพราะไม่มีส่วนรู้เห็นลงมือฆ่า ล่าสุดรับโทษครบตามคำสั่งศาลถูกปล่อยตัวออกมาแล้ว ขณะที่ญาติเหยื่อโหดพอใจกับคำตัดสิน

ศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต “บังฟัต” และพวก เปิดเผยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 มี.ค. ศาลจังหวัดกระบี่นัดพนักงานอัยการจังหวัดกระบี่พร้อมทนายฝ่ายจำเลย ฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีที่นายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล อายุ 41 ปี พร้อมพวกรวม 8 คน ร่วมกันสังหารนายวรยุทธ หรือผู้ใหญ่บัติ สังหลัง อายุ 46 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ พร้อมครอบครัวเสียชีวิตรวม 8 ศพ ที่บ้านเลขที่ 14/3 หมู่ 1ต.บ้านกลาง เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 10 ก.ค.60
คดีนี้มีจำเลยทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วยนายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล นายคมสรรค์ เวียงนนท์ นายอับดุลเลาะ ดอเลาะ นายอรุณ ทองคำ นายประจักษ์ บุญทอย นายธนชัย จำนอง นายธวัฒชัย บุญคง และนางชลิดา สังข์โชติ โดยศาลไม่อนุญาตให้ญาติผู้เสียชีวิตเข้าฟังการพิจารณาคดี ขณะที่ภายนอกห้องพิจารณาคดีมีครอบครัวของนายวรยุทธ หรือ
ผู้ใหญ่บัติ สังหลัง อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เดินทางมาฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดกระบี่ด้วย

ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ลงโทษประหารชีวิตบังฟัตพร้อมกับจำเลยที่2ถึง7 เนื่องจากศาลให้ความเห็นว่าการกระทำของจำเลยทั้ง 7 เป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น ส่วนจำเลยที่ 8 นางชลิดา สังข์โชติ ภรรยาบังฟัต ยืนโทษจำคุก 12 เดือนเช่นเดิม เนื่องจากศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการลงมือฆ่า ล่าสุดได้พ้นโทษออกมาแล้ว

นายเกรียงศักดิ์ สาระภี ทนายฝ่ายจำเลย เปิดเผยว่า ศาลฎีกาพิจารณายืนคำตัดสินตามศาลอุทธรณ์ภาค 8 คือให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 1-7 ส่วนกรณีของนางชลิดาภรรยานายซูริก์ฟัตไม่ได้ยื่นฎีกา เนื่องจากรับโทษครบตามคำสั่งศาลไปแล้ว หลังจากนี้จะยื่นทูลเกล้าฯถวายฎีกาเพื่อขอลดโทษประหาร ตามที่ญาติของจำเลยบางรายร้องขอมา ส่วนจำเลยที่เหลือหากญาติแจ้งขอให้ช่วยทำเอกสารยื่นทูลเกล้าฯจะดำเนินการให้ตามขั้นตอน ขณะที่ญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตที่มารอฟังผลคำตัดสินต่างแสดงความดีใจเนื่องจากพอใจกับคำพิพากษา

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ก.ค.60 กลุ่มคนร้ายทั้งหมดนำโดยนายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต แต่งกายคล้ายชุดทหารบุกเข้าไปที่บ้านของนายวรยุทธ หรือผู้ใหญ่บัติ หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก ก่อนจะก่อเหตุสังหารหมู่ 8 ศพ และบาดเจ็บอีก 3 ราย ในจำนวนนั้นมีเด็ก3ราย อายุ 3 ขวบ 8 ขวบ และ 12 ปี รวมอยู่ด้วยจากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาขับรถโตโยต้ายาริสของผู้ตายไปเผาทิ้งในพื้นที่ จ.พังงา ต่อมาตำรวจตามจับกุมได้ยกแก๊ง สาเหตุมาจากนายวรยุทธ หรือผู้ใหญ่บัติ นำโฉนดที่ดิน 4 แปลง ไปขายฝากไว้กับบังฟัตจำนวน 3 ล้านบาท ต่อมาผู้ใหญ่บัตินำเงินไปไถ่ถอนคืนจนครบ แต่บังฟัตไม่ยอมคืนโฉนดที่ดิน เพราะนำไปจำนองต่อธนาคาร จนกลายเป็นปมบาดหมางและขู่ฆ่ากันไปมา

ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1-6 รับโทษสูงสุดคือประหารชีวิต ส่วนจำเลยที่ 7 คือนายธวัชชัยยกฟ้องในคดีร่วมกันฆ่า และร่วมกันปล้นทรัพย์ แต่ให้รับโทษคดีแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน โทษจำคุก 1 ปี 9 เดือน นางชลิดา ภรรยาบังฟัต จำเลยที่8รับโทษ 12 เดือน ทนายฝ่ายจำเลยยื่นอุทธรณ์ขอให้ลดโทษประหารเหลือจำคุกตลอดชีวิต ขณะที่อัยการยื่นอุทธรณ์ให้เพิ่มโทษของนายธวัชชัย จากนั้นศาลอุทธรณ์ภาค8 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้จำเลยที่ 1-6 รับโทษประหาร จำเลยที่ 8 รับโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น และพิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 7 มีความผิดร่วมกันรับโทษประหาร ทนายฝ่ายจำเลยยื่นฎีกาเพื่อขอลดโทษจำเลยที่ 1-7 อีกครั้ง กระทั่งมีคำตัดสินดังกล่าว


แหล่งข่าว : ไทยรัฐ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น