หลังจากพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกคำสั่งให้ประชาชนที่ออกจากบ้านต้องใส่หน้ากากอนามัย แม้กระทั่งตอนอยู่ในรถ หากอยู่เกิน 2 คน ต้องใส่หน้ากากอนามัยเช่นกัน หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558
โดยให้ประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าอย่างถูกต้องหรือถูกวิธีทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนัก
โดยกรณีนี้พล.ต.อ.อัศวิน เผยว่า เชื่อว่าแต่ละบ้านมีหน้ากากอนามัยอยู่แล้ว จึงขอให้ปฏิบัติตาม หากไม่อยากถูกปรับต้องสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันตัวเองแล้ว ยังป้องกันการแพร่เชื้อบุคคลรอบข้าง
“หากพบเห็นผู้ไม่สวมหน้ากากให้แจ้งตำรวจ หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ (เขต) ส่วนกรณีแจ้งเขต เขตต้องดำเนินการแจ้งความต่อตำรวจ เพื่อสอบสวน นำส่งอัยการ และให้พิจารณาเพื่อเปรียบเทียบปรับตามดุลยพินิจศาลต่อไป”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลตามบัญชีอัตราการเปรียบเทียบแนบท้ายระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบ 2563 ระบุถึงโทษความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ว่า
“มาตรา 51 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (1) (2) (5) หรือ (6), มาตรา 39 (1) (2) (3) หรือ (5), มาตรา 40 (5) หรือไม่อํานวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 39 (5) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
โดยมีการจำแนกอัตราค่าปรับใน 2 แบบ แบบที่ 1 มาตรา 34 (5) หรือ (6) ครั้งที่ 1 จำนวน 6,000 บาท
ครั้งที่ 2 จำนวน 12,000 บาท และตั้งแต่ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป 20,000 บาท
และมาตรา 34 (1) (2), มาตรา 39 (1) (2) (3) หรือ (5), มาตรา 40 (5) และมาตรา 39 (4) ปรับในอัตราเดียว 20,000 บาท
0 ความคิดเห็น